วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2551

cute bunny


น่ารัดเนอะ ตอนเปงเด็กเนี่ย พอโตมาทำไมน่าถีบจังวุ้ย

ตอนนี้เจ้านายใกล้จะขวบนึงแล้ว ตอนนี้ซนมากๆ เวลาโกรธชอบทำหูตกข้างเดียว เจ้านายเค้าเคยมีว่าที่เจ้าสาว 4 ตัวค่ะ เกือบได้เข้าหอกันแล้ว

แต่เจ้านายบุญไม่ถึง เจ้าสาวเลยหนีไปเที่ยวสวรรค์หมดแล้ว ตายหมดเลย พาเจ้าสาวมาให้ก้ออยู่กันได้แป๊บๆ ตัวเมียก็ตายหมดเลย

แต่เจ้านายมันขี้อ้อนนะ เวลาดูตามันนะ ตาหวานเยิ้มเลย ตอนดื้อจะโดนจับขัง แต่พอขังได้ซักพักต้องไปปล่อยเค้าแล้ว



ก็พอโดนขังเนี่ยเค้าจะหมอบเลย นิ่งๆก่อน พอเราไม่สนใจ ทีนี้อาละวาดเลยค่ะ เขย่ากรง คว่ำถาดข้าว คุ้ย มั่วไปหมด

ทำเสียงดังๆ จนเราทนไม่ไหวมาเปิดให้ วันไหนใจแข็งหน่อย ไม่ปล่อย มามุกใหม่เลย จะนอนแบบเป็นกระต่ายอมทุกข์ เห็นนิ่งๆ ความจริงมันสำออยค่ะ

แต่เปิดให้ออก ไม่ออก งอน พอเราไปแตะตัวนี่ ขู่จะกัด เอาแต่ใจมากเลย - -* หรือเพราะเราเลี้ยงเค้าตามใจเกินไปไม่รู้

วันศุกร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2551

อิกระต่ายนิสัยเสีย


นี่หลบใต้เตียงกลัวแม่จับทอด

มันดื้ออ่ะค่ะ ชอบแอบกินขนม เพราะเค้าจะรู้ว่าซองมาม่ามันซุกอยู่ไหน เค้าตามปีนไปกินปีนไมโครเวฟ ไปกินขนมปัง แล้วเค้าไม่ยอมด้วย คือเห็นเรากินอะไร จะง้องแง๊งตามมาขอกินตลอด ถ้าไม่ให้มันก็งอนเดินเข้ากรงเอง นอนหมอบ ฟุบหน้าลงเลย เรียกก็ไม่สนใจ พอหายงอน มันก็ลุกมากินผักแล้วก็วิ่งเล่นเค้าชอบมุดถุง ไม่รู้เป็นอะไร เวลาเราซื้อของกลับมาเอาถุงวางไว้ เค้าเห็นก็จะเล็งแล้ว วิ่งใส่เลย


เจ้านายกับสมุน

ดึงก็ไม่อยู่วิ่งหนี มาคอยซุ่มโจมตีถุง เหมือนมันจะรู้ว่ามีของที่กินได้อยู่ในนั้นแล้วเค้าก็ติดน้ำหวาน ถ้าให้น้ำเปล่าเค้าไม่ยอมกินเลย เคยขาดกลูโคสในเลือด เกือบเท่งไปทีนึงพาไปหาหมอกลับมาเดินไม่ได้เป็นเดือน กว่าจะหาย ตั้งแต่นั้นเลยต้องให้เค้ากินเกลือแร่ตลอด ผสมน้ำให้เค้ากิน


ต้องรื้อผ้าปูที่นอนออกเพราะมันไม่นอมลงจากเตียง + ต้องเอาพัดลมขึ้นมาเป่าให้มันอีกตะหาก

อีกอย่างนะ เรื่องนี้ทำมี่ปวดหัวมากๆเลย เรื่องอึเนี่ย เค้าอึเป็นที่มากเลยค่ะ เวลาปวดอึเค้าจะกระโดดขึ้นเตียงมี่ อึบนผ้าห่มข้างๆตุ๊กตาหมีประจำเมื่อไหร่ขึ้นเตียงจะฟอร์มเนียนแกล้งวิ่งเล่น พอเผลอ ชิดมุม ปล่อย มี่ล่ะปวดใจ ดีหน่อยตรงที่ตอนฉี่เค้าฉี่ในถาดรองในกรง ม่ายงั้น ปวดหัวตายเลย ต้องคอยเก็บผ้าซัก

วันพุธที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2551

ทำยังไงจะไม่โดนหลอก



เนื่องจากปัญหาส่วนใหญ่ที่เรามักจะพบกันบ่อยก็คือ ผู้ขายกระต่ายบางส่วน ได้เอากระต่ายที่ยังไม่หย่านม คือมีอายุไม่เกิน 2 เดือนมาขาย โดยเอามาหลอกขายว่าเป็นกระต่ายแคระ บางตัวอายุเพียงแค่ 3 สัปดาห์ด้วยซ้ำ ดังนั้น เราจึงควรจะเรียนรู้วิธีการเลือกซื้อลูกกระต่าย เพื่อจะได้ ไม่โดนหลอกกันอีก

อย่าซื้อเลยค่ะ ลูกกระต่ายที่ยังไม่หย่านมโอกาสรอดน้อยค่ะ เพราะนั่นคือ เรากำลังฆ่าลูกกระต่ายเหล่านั้นทางอ้อม ปล่อยให้เค้าอยู่กับแม่ของเค้า จนถึงเวลาที่เหมาะสมดีกว่าค่ะ แล้วเราจะได้ลูกกระต่ายที่แข็งแรง สุขภาพและสุขภาพจิตดี อีกด้วย

อีกอย่างนะ ลูกกระต่ายน่ะดูน่ารักก็จริง แต่อายุขนาดนั้น ฟอร์มยังไม่ออกหรอกค่ะ เลือกซื้อหลังจากอายุ 2-3 เดือนไป ยิ่งดี เพราะว่า เราจะเห็นลักษณะเค้าชัดเจนยิ่งขึ้น ว่าสวยจริงหรือไม่


ลูกกระต่ายหย่านมแล้วหรือหรือไม่

กระต่ายที่อายุน้อยเกินไป ลักษณะจะเป็นงี้นะคะ มาๆๆมาดูกัน ขนน้องเค้าจะอ่อนเพราะไรรู้ป่าวคะ ก็เพราะมันเป็นขนที่ยังไม่ผลัดไง ส่วนขาโดยเฉพาะขาหลังจะยังยืดไม่เต็มที่ นิ้วจะยังไม่ค่อยออก นิ้วจะสั้นๆ หูจะสั้นๆและแข็ง เมื่อลองสัมผัสเทียบกับกระต่ายโต พันธุ์เดียวกัน

วิธีสังเกตอื่นๆก็จะดูจากพฤติกรรมน้องกระต่ายเค้าก็ได้ค่ะ น้องกระต่ายตัวน้อยจะนอนทั้งวัน จะเดินไม่คล่อง ยังต้วมเตี้ยม ขี้ตกใจ ฟันจะเห็นว่าฟันบางตัวจะยังขึ้นไม่สมบูรณ์ยังเป็นเพียงจุดขาวๆ ยื่นออกมาสั้นๆก็มี



ในบางรายอาจจะเอากระต่ายที่โตแล้ว และเพาะลูกมาระยะหนึ่ง จนใกล้จะหมดเวลาที่เหมาะสม อาจจะมีการคัดกระต่ายทิ้งไป เพื่อหาพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ใหม่มาแทน แล้วเอากระต่ายแก่มาหลอกขาย เป็นต้น วิธีป้องกัน ในการไม่ไปซื้อกระต่ายอายุมากเกินไปก็คือ

การตรวจดูที่ฟันของกระต่าย ฟันกระต่ายหนุ่มสาวจะมีสีขาวเหมือนไข่มุก แต่ถ้ากระต่ายอายุมาก ยิ่งมากฟันจะยิ่งเหลือง ส่วนไขมันใต้คาง กระต่ายยิ่งอายุมาก ไขมันใต้คางจะยิ่งหนา

ดูจากเล็บกระต่าย ยิ่งเล็บยาวม้วนมาก อายุจะยิ่งมาก แต่ถ้าหากว่า โดนตัดเล็บไป เราอาจจะตรวจดูจากฐานเล็บ หากความกว้างของฐานเล็บยิ่งมาก กระต่ายจะยิ่งมีอายุมากค่ะ

ของเล่นของกระต่าย



กระต่ายของเพื่อนๆ มีของเล่นหรือยัง ใครๆก็อยากจะให้น้องต่ายของตัวเองมีความสุขกันทั้งนั้นแหละ แต่พอถามถึงของเล่นของกระต่าย ส่วนใหญ่จะอึ้งๆๆๆๆๆ และก็ถามกลับมาว่า “กระต่ายมีของเล่นด้วยเหรอ ไม่ใช่แฮมสเตอร์นะจะได้ปั่นวงล้อ”

ที่จริงแล้ว กระต่ายเอง ก็มีของเล่นได้นะคะ การเลือกของเล่น เลือกแบบที่ไม่มีสีดีกว่า หรือหากมีสีก็ควรจะเป็นสีผสมอาหารนะคะ ประเภทไม้ที่ชุบสีทาบ้านเนี่ย ไม่ดีค่ะ เป็นอันตรายกับกระต่าย


• พวกผ้าขนหนูเก่าๆ
ก็มีประโยชน์ค่ะ เอาไว้ให้มุดเล่น หรือ ดึงเล่น แต่อย่าทิ้งไว้ในกรงนะคะ เพราะว่ากระต่ายอาจจแทะเอาผ้าเข้าไป และย่อยไม่ได้ เป็นต้น

• แกนทิชชู่ค่ะ
ใส่เอาไว้ในกรงก็ได้ค่ะ กระต่ายจะแทะเล่นหรือไม่ก็เอามาเหวี่ยงเล่นอีกด้วย

• กล่องกระดาษค่ะเอาแบบแข็งๆ
แข็งแรงๆนะคะ เอามาเจาะเป็นรูประตูเข้าออก ค่ะ ใช้เป็นที่หลบได้ กระต่ายจะมุดเข้าไปสำรวจ และอาจจะแทะเล่นอีกด้วย ที่อยากให้หาเป็นกล่องแข็งๆ เพราะว่า บางทีกระต่ายจะปีนขึ้นไปบนหลังกล่องค่ะ กลัวว่าจะคว่ำลงมา ใครมีไอเดียเจ็งๆ ฝีมือดีๆ จะตกแต่งบ้านกระดาษให้สวยถูกใจน้องกระต่ายก็ทำได้ค่ะ

• นอกจากนี้อาจจะดัดแปลงกล่องเป็นกล่องสมบัติค่ะ ในกล่องกระดาษนั้นใส่หญ้าลงไป กระต่ายจะขุดคุ้ยเล่นค่ะ และแทะกินหญ้าในกล่องไปในตัว



• พวกตะกร้าสานที่ไม่ใช้แล้ว
ใส่ไว้ในกรงก็ได้ค่ะ ให้กระต่ายแทะเล่น

• พวกของเล่นสุนัขค่ะ
กระต่ายบางตัวชอบเอามาเล่น โดยเอาปากงัดโยนไปมา แต่อย่าเลือกแบบที่กระต่ายเคี้ยวได้ หรือเล็กจนติดคอได้นะคะ

• แล้วก็พวกของเล่นกลมๆ
ที่กลิ้งได้ มีเสียงกรุ๊งกริ๊งๆ แบบนี้ กระต่ายบางตัวชอบนะ จะบอกให้

• กะบะอาหารสแตนเลส
ว่างๆ ลองใส่ไว้ในกรงดูนะคะ กระต่ายบางตัวชอบเอาปากงับเหวี่ยงเล่นค่ะ

• บ้านบันไดโพรงค่ะ
สำหรับการแทะเล่น และ การกระโดดขึ้นลง ออกกำลังกาย กระต่ายชอบปีนขึ้นไปนอนที่สูงๆด้วยนะคะ เพราะว่าจะทำให้เห็นวิวชัดขึ้น เค้าจะปีนขึ้นไปนอนบนบ้านบันไดโพรงค่ะ นอกจากนี้ยังใช้บ้านบันไดโพรงเป็นที่ลับฟันอีกด้วย (กระต่ายชอบมาก อันนี้แนะนำเลยค่ะ อยากให้มีไว้ในกรง)

• กระดาษขาวไม่มีลาย
เหมาะแก่การให้กระต่ายฉีกเล่นค่ะ หรือใช้ในการลับเล็บ ในการขุดเป็นต้น พยายามเลี่ยงกระดาษหนังสือพิมพ์ค่ะ เพราะว่ามีหมึกพิมพ์ซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพกระต่าย

• หญ้าแห้งค่ะ
หรือหญ้าธรรมดาก็ได้ค่ะ เอามามัดเข้าด้วยกันเป็นฟ่อนหญ้า กระต่ายจะสนุกกับการดึกหญ้าออกมาจากฟ่อน และเคี้ยวกินหญ้าค่ะ

• ฝาอย่างฝาขวดที่เป็นพลาสติก
น่ะค่ะ กระต่ายบางตัวก็ชอบคาบแล้วเหวี่ยงเล่นเหมือนกัน เอาฝาใหญ่ๆหน่อยนะคะ เอาแบบงับเล่นได้ แต่กินไม่ได้ ป้องกันไม่ให้ติดคอน้องกระต่าย

• ขอนไม้
ใส่ขอนไม้ไว้ในกรงด้วยก็ได้ค่ะ กระต่ายจะฝึกวิชาตัวเบากระโดดข้ามเล่นไปมา และ แทะเล่น นอกจากนี้ขอนไม้ยังให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติแก่กระต่ายอีกด้วย อ้อ อย่าใช้ไม่ที่มีเสี้ยนหรือยางนะคะ

• ถุงกระดาษแบบไม่มีลาย ไว้ให้มุดเล่น ขุดเล่น และไว้ให้แทะเล่น

• ไม้ลับฟัน ไว้ให้กระต่ายลับฟันเล่น ป้องกันฟันยาวได้อีกด้วย

วันศุกร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2551

แม่กระต่ายมือใหม่

สำหรับคุณแม่มือใหม่ ที่จู่ๆ น้องกระต่ายที่ดูเหมือนอ้วนก็ออกลูกตัวแดงๆ ออกมา จะทำยังไงดี คนที่แม่กระต่ายใกล้จะออกลูกก็ควรศึกษาไว้นะคะ ถึงเวลาจะได้พร้อมค่ะอย่าเพิ่งตกใจนะคะ ใจเย็นๆ แล้วค่อยๆทำตามเป็นข้อๆ นะคะ



1. แยกตัวผู้
ถ้ายังไม่ได้แยกตัวผู้ออก รีบแยกออกก่อนตัวเมียจะคลอดลูก แต่ของใครออกลูกมาแล้วโดยที่ยังไม่ได้แยกตัวผู้ ก็อย่าปล่อยเลยตามเลยนะคะ รีบแยกตัวผู้ออกซะดีๆ

2. เตรียมรังคลอด
. ในกรงกระต่ายมีรังคลอดหรือยังคะ ที่จริงควรใส่ไว้ในตั้งแต่แม่กระต่ายยังไม่ออกลูก ค่ะ ถ้ายังไม่ได้เตรียมไว้ ก็ควรจะรีบไปหามาค่ะ แม่กระต่ายบางตัวจะเข้าไปออกในรังที่เราเตรียมไว้ให้ หลังจากแม่กระต่ายออกลูกแล้ว เค้าจะเลียทำความสะอาดลูก ซึ่งหลังจากแม่กระต่ายทำความสะอาดลูกแล้ว เราก็สามารถเข้าไปตรวจดูได้ค่ะ ว่ามีลูกกระต่ายตายบ้างหรือไม่ ถ้าพบว่าตายก็ต้องจะเก็บออกค่ะ เพราะว่าถ้าปล่อยไว้ อาจจะทำให้ฝูงมดมาค่ะ ทีนี้ลูกกระต่ายตัวอื่นๆจะโดนมดกัดตายตามไปด้วย



แต่ถ้าแม่กระต่ายไม่ยอมออกในลูกรังคลอดที่เราเตรียมไว้ให้ เราก็สามารถจะจับลูกกระต่าย ไปไว้ในรังคลอดได้ค่ะ การปล่อยลูกกระต่ายไว้นอกรังคลอดไม่ดีหรอกค่ะ เพราะว่า ขาลูกกระต่าย หรือตัวลูกกระต่าย อาจจะตกลงไประหว่างซี่กรง และโดนแม่เหยียบตายได้

ซึ่งกระต่ายไม่มีปัญหาเรื่องการผิดกลิ่นหรอกค่ะ ไม่ต้องห่วงค่ะ เราสามารถจะจับลูกกระต่ายได้ค่ะ แต่หากใครกลัวมากๆ จะเอามือไปถูๆที่ขนแม่กระต่ายก่อนค่อยมาจับลูกกระต่ายเพื่อความสบายใจ ก็ไม่ผิดกติกาค่ะ

3. จัดกรงให้ปลอดภัยแก่ลูกกระต่าย

ในกรณีที่แม่กระต่ายไม่ยอมทึ้งขน แล้วอากาศค่อนข้างเย็นเนี่ย เราอาจจะช่วยลูกกระต่ายให้มีที่นอนนุ่มๆอุ่นๆได้ค่ะ โดยไปหาสำลีแบบก้อนๆค่ะ ที่ขายตามโลตัสเป็นก้อนใหญ่ๆ เอามาปูในกรงก็ได้ค่ะ ลูกกระต่ายจะซุกตัวเข้าไปนอนเหมือนกับเป็นขนของแม่ค่ะ (กรณีที่ลูกกระต่ายที่แม่ไม่เลี้ยง ก็เอาสำลีมาปูได้ ไม่ผิดกติกาค่ะ)



นอกจากนี้ ตามพื้นกรงที่เป็นซี่ๆ ลูกกระต่ายอาจจะตกลงไประหว่างซี่ หรือ ขาติดระหว่างซี่กรง แล้วโดนเหยียบได้ ซึ่งเพื่อนๆ สามารถจะป้องกันได้ โดยการปูพื้นกรงด้วยหญ้าแห้งค่ะ อาจจะเป็น หญ้าขนแห้งๆ หรือหญ้าแห้ง Timothy ที่ขายเป็นถุงๆก็ได้ค่ะ เพื่อปิดซี่ห่างของพื้นกรง ซึ่งนอกจากจะเพิ่มความปลอดภัย แม่กระต่ายยังสามารถจะใช้รองนอน ลูกกระต่ายก็ได้รับความอบอุ่น และแม่กระต่ายยังสามารถจะแทะหญ้าแห้งเหล่านี้กินได้อีกด้วย

4. แม่กระต่ายเลี้ยงลูกหรือเปล่า

หากแม่กระต่ายดูเหมือนไม่ยอมเลี้ยงลูก ไม่ต้องตกใจกลัวนะคะ เจ้าของส่วนใหญ่มักจะกังวลเมื่อเห็นว่า แม่กระต่ายไม่ยอมไปนอนกกลูก แถมบางทีก็ไม่เห็นว่าเลี้ยงนมลูกอีกต่างหาก ก็เลยกลัวกันว่าแม่กระต่ายไม่เลี้ยง แต่จริงๆแล้ว อาจจะไม่ใช่อย่างที่เพื่อนๆ เข้าใจนะคะ เพราะว่า แม่กระต่ายไม่ใช่แม่ไก่ค่ะ เค้าไม่กกลูกทั้งวันหรอกค่ะ แต่ว่าเค้าจะให้นมลูกแค่วันละ ไม่เกิน 2 ครั้งค่ะ คือตอนเช้าตรู่ ครั้งและตอนกลางคืนอีกครั้งค่ะ

ส่วนเวลาที่เหลือเค้าจะแยกไปดูลูกอยู่ห่างๆค่ะ ทั้งนี้ก็เพราะตามธรรมชาติแล้วกระต่ายจะไปออกลูกในโพรง การที่แม่กระต่ายอยุ่กับลูกที่โพรงตลอดเวลานั้น จะทำให้เป็นเป้าสนใจแก่ผู้ล่าค่ะ อย่าลืมว่าหากมีศัตรูมาโจมตี กระต่ายไม่มีทางสู้ได้เลยนอกจากการหนีให้เร็วที่สุด แต่ว่าลูกกระต่ายแรกเกิดนั้น ตายังไม่ลืม หูไม่ได้ยิน มองไม่เห็น เดินไม่ได้ ป้องกันตัวเองไม่ได้เลย แม่กระต่ายส่วนใหญ่จึงมักจะต้องอยู่ห่างๆลูกไว้ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเป้าของศัตรูนั่นเอง


วิธีดูว่าลูกกระต่ายได้รับนมจากแม่หรือไม่
วิธีดูง่ายๆคือลูกกระต่ายที่ได้กินนมแม่เนี่ย ตรงท้องบางๆของเค้าจะเต่งกลมค่ะ และมองดีๆจะเห็นนมสีขาวๆ อยู่ใต้ผิวบางๆ
ส่วนลูกกระต่ายที่แม่ไม่ยอมเลี้ยง เราจะเห็นว่าตัวเค้าเหี่ยวๆค่ะ ท้องไม่เต่งเต็มเหมือนตอนคลอดออกมา

4. หาแม่บุญธรรมถ้าแม่กระต่ายไม่เลี้ยง

ถ้าแม่กระต่ายไม่เลี้ยงเนี่ย เราจำเป็นจะต้องหาแม่บุญธรรมค่ะ ลูกกระต่ายเลี้ยงมือไม่ค่อยรอดนะคะ เราเคยเลี้ยงมือ มีอยู่ตัวหนึ่ง แม้จะรอดแต่ก็ตายไม่นานหลังอายุหย่านม หลายๆคนก็เคยเจอแบบเดียวกันค่ะ ทางที่ดีที่สุดคือ หาแม่บุญธรรมค่ะ เป็นแม่กระต่ายที่คลอดลูกไล่เลี่ยกัน ลองประกาศหาตามบอร์ดต่างๆ อาจจะมีคนช่วยเหลือได้ รวมทั้งถามจากฟาร์มที่ซื้อมาค่ะ เผื่อเค้าจะมีแม่กระต่ายลูกอ่อน

5. อย่าลืมน้ำและอาหารของแม่กระต่าย

อย่าลืมเรื่องน้ำและอาหารของแม่กระต่ายด้วยนะคะ ดูแลเค้าให้เค้ามีน้ำและอาหารอย่าให้ขาดค่ะ :)

วันพุธที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2551

ของว่างของน้องกระต่าย



น้องกระต่ายเค้าไม่รู้ตัวหรอกว่าเค้าเปงกระต่ายอ่ะนะ
เหงแม่กินอะไร มันจะง้องแง๊งกินด้วยซะให้ได้
ทีนี้แม่มันดันชอบกินไอติมอะดิ

มันก้อเลยกลายเปงว่าน้องกระต่ายติดไอติม
ซะงั้นนะ แต่น้องเค้าจะงอแงมากๆถ้าแม่ไม่แบ่งให้กิน
แบบว่า ขอให้ได้แตะๆลินนิดนุงก็ยังดีอ่ะนะ

แง้วๆๆๆๆ

วันอังคารที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2551

ดูแลลูกกระต่ายที่ยังไม่หย่านม



ให้ใช้นมสำหรับสัตว์กำพร้า เช่น นมแพะ หรือ Esbilac หรือ KMR (นมสำหรับลูกแมว) หรือหากยังหาได้ไม่ทัน ให้ป้อนนมวัวไปก่อน และรีบหานมแพะ หรือ Esbilac หรือ KMR มาแทนโดยเร็ว และค่อยๆป้อนลูกกระต่าย กระต่ายยังไม่หย่านม ที่นำมาขายกัน น่าจะมีอายุประมาณ 3 สัปดาห์ หรือ 1 เดือน ให้ป้อนประมาณ 30 cc ต่อวัน

หากมีกระต่ายตัวอื่นที่โตแล้ว ให้เอาอึ กระต่ายที่เรียกว่า cecotropes หรือ อึที่ลักษณะเหมือนพวงองุ่น ติดกัน สีออกเขียวขี้ม้าให้เอาอึนี้มาผสมกับ นมที่ป้อนลูกกระต่าย เพราะว่า ลูกกระต่ายต้องการ แบคทีเรียที่ใช้ในการย่อยอาหาร ซึ่งไม่สามารถจะได้รับจากแม่ เนื่องจากแยกจากแม่มาเร็วเกินไป โดยใช้อึ cecotropes แค่ 1 ก้อน สำหรับ 4-5 วัน ซึ่งจำเป็นมากๆ นะคะ สำหรับลูกกระต่ายที่โดนแยกออกมาทั้งๆที่ยังไม่หย่านม


อันนี้น้องกระต่าย รึป่าว

สำหรับลูกกระต่าย ควรให้หญ้าค่ะ ไม่ว่าจะเป็น หญ้าขน หญ้าอัลฟาฟ่า หรือ ทิโมธี ก็ได้ค่ะ และหลีกเลี่ยงผักผลไม้ที่มีน้ำมากๆ เพราะจะทำให้ท้องเสียได้ ซึ่งถ้าลูกกระต่ายท้องเสีย ถือว่า อันตรายถึงแก่ชีวิตได้ง่ายมากๆ และเมื่อลูกกระต่ายอายุ 6 สัปดาห์จึงค่อยเริ่มหัดให้กินอาหารเม็ด
ที่สำคัญคือ ระยะการเปลี่ยนมากินอาหารเม็ดนี้ เป็นระยะที่เสี่ยงแก่การที่ลูกกระต่ายจะท้องเสีย เป็นอย่างมาก จึงควรหมั่นสังเกตตลอดว่า ลูกกระต่ายท้องเสียหรือไม่


แบบนี้มานมะช่ายลูกกระต่ายแล้วเฟ้ยย

ในระยะที่เริ่มสอนให้ลูกกระต่ายกินอาหารเม็ด ห้ามไม่ให้เอาหญ้าออกนะคะ เพราะว่า การเปลี่ยนอาหารต้องเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป เพราะระบบย่อยอาหารของลูกกระต่ายจะปรับตัวไม่ทัน และจะทำให้ท้องเสียได้เช่นกัน ระยะแรกๆ ควรให้อาหารเม็ดแค่น้อยๆ เพื่อบังคับให้ลูกกระต่ายกินหญ้าไปด้วย แล้วค่อยๆเพิ่มทีหลังทีละนิดค่ะ ในระยะนี้ เราควรป้อน cecotropes หรือ อึพวงองุ่นให้ลูกกระต่ายด้วยค่ะ เพื่อเสริมแบคทีเรียที่จำเป็นต่อการย่อยค่ะ
นอกจากนี้ เราไม่ควรจะพาลูกกระต่ายที่ยังไม่หย่านม เดินทางไปไหน เพราะอาจจะ ตากแดด ตากลมมากเกินไปค่ะ เพราะเค้ายังอ่อนแอ ไม่ควรพาเดินทางค่ะ

สรุปว่า การเลี้ยงลูกกระต่ายที่ยังไม่หย่านมนั้น จะค่อนข้างลำบาก เพราะว่า ลูกกระต่ายเองก็เปราะบาง ไม่แข็งแรง และ เสียชีวิตได้ง่ายค่ะ แม้กระทั่งผู้เลี้ยงหลายๆคนที่เก่ง และเลี้ยงกระต่ายมานาน ยังพบปัญหาจากการที่ลูกกระต่ายท้องเสียตายอยู่บ่อยๆ